วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2550

Forms and Usage 1 (การใช้และข้อสังเกต) ขั้นตอนที่2

ในส่วนของการใช้นั้น ก็จะสรุปเฉพาะประเด็นที่สำคัญๆ เพื่อง่ายแก่การทำความเข้าใจ เริ่มที่การใช้ Past Simple ก่อนนะครับ
1. เราใช้ Past Simple ในเหตุการณ์และสถานการณ์ต่อไปนี้
1.1 ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจบลงไปแล้วตามลำดับในอดีต มักจะเห็นคำกริยาวิเศษณ์ที่แสดงอดีตปรากฎอยู่ (yesterday, last ..., ... ago etc.)
Ex. I studied English yesterday.
1.2 ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำในอดีต มักจะมีคำกริยาวิเศษณ์บอกความถี่ปรากฏอยู่ (always, often etc.)
Ex. I always went shopping on Sundays.
2. เราใช้ Past Continuous ในเหตุการณ์และสถานการณ์ต่อไปนี้
2.1 ใช้กับ2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อน หรือจะบอกว่าเป็นฉากของเรื่องนั้นก็ว่าได้ ใช้ past cont. และเหตุการณ์ที่เกิดหลัง หรือแทรกเข้ามาในระหว่างนั้น ใช้ past simple
Ex. While I was going to school, I saw an accident on the road.
2.2 ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง มักจะมีเวลาระบุเอาไว้
Ex. This time last year I was reviewing my lessons.
3. เราใช้ Present Perfect ในเหตุการณ์และสถานการณ์ต่อไปนี้
3.1 ใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่อดีตดำเนินมาถึงปัจจุบันหรือขณะที่พูด มักมีคำว่า for (เป็นเวลา...) , since (ตั้งแต่...) ปรากฏอยู่
Ex. Wichai has worked here for four years.
3.2 ใช้กับเหตุการณ์ที่บอกประสบการณ์ มักมีคำว่า recently, just, already, ever, never และ yet ปรากฏอยู่
Ex. I have already seen that film.
4. เราใช้ Present Perfect Continuous ในเหตุการณ์หรือสถานการณ์ต่อไปนี้
4.1 คล้ายๆ กับ Present perfect simple ต่างกันตรงที่
Present perfect simple นั้น มีผลปรากฏให้เห็น
ส่วน Present perfect Cont. ยังดำเนินอยู่ ยังไม่มีผลปรากฏว่าทำเสร็จหรือยัง
Ex. I have watched some athletics and written a letter. (ดูและเขียนเสร็จแล้ว)
I have been watching the athletics. (ยังดูอยู่ ยังไม่เสร็จ)
5. เราใช้ Be going to และ will ในสถานการณ์ต่อไปนี้
5.1 ใช้ be going to กับสถานการณ์ที่บอกว่าได้เตรียมการหรือวางแผนเอาไว้ก่อนล่วงหน้า
Ex. I'm going to study Practical English Phonetics next semester.
5.2 ใช้ be going to กับสถานการณ์ที่มีเหตุการณ์ปัจจุบันบอกเราว่าจะเกิดขึ้นแน่นอนในอนาคต
Ex. It's going to rain. (เห็นเค้าฝน หรือเมฆหนา)
5.3 ส่วน will นั้น เราใช้กับสถานการณ์ที่ไม่ได้วางแผนไว้ก่อนหรือติดสินใจในขณะนั้นนั่นเอง
Ex. A: Would you like me to help you?
B: Oh, no thanks. I will be OK.
เป็นอย่างไรบ้างครับ เห็นไหมครับว่า วิชานี้มันยากแค่ไหน ถ้าพื้นฐานเราไม่ดี และการทดสอบก็คงไม่ให้เขียนแค่หรอกนะครับ เพราะมันไม่สามารถบอกว่าคุณเข้าใจในเรื่องนั้น แต่การวิเคราะห์ประโยคนั้น แล้วสามารถเลือกใช้ tense ได้ถูกต้องต่างหากละที่บอกว่า คุณเข้าใจในเรื่องนั้นอย่างแท้จริง
ที่พูดเนี่ย เข้าใจป่าวเนี๊ยะ โอเคครับ ทบทวนโครงสร้างและการใช้ก่อนนะครับ แล้วค่อยไปวิเคราะห์สถานการณ์ พบกันในขั้นที่ 3 นะครับ