เมื่อครั้งที่แล้วได้พูดถึง phoneme หรือหน่วยเสียงไปแล้ว ครั้งนี้เป็นเรื่องที่ต่อเนื่องกันจากหน่วยเสียง นั่นคือ morpheme หรือหน่วยคำ หน่วยคำนั้นไม่เท่ากับพยางค์(syllable) ไม่เท่ากับหน่วยเสียง(phoneme) และไม่เท่ากับคำ (word) แต่หน่วยคำนั้น อาจจะมีทั้งหน่วยเสียง มีทั้งพยางค์ หรือเป็นคำก็ได้ เอ๊ะมันเป็นยังไงละ มาดูซิครับว่า morpheme นั้นมีลักษณะเป็นอย่างไร และมีอะไรบ้าง
นักศึกษาครับ morpheme ก็คือหน่วยคำที่เล็กที่สุดซึ่งมีความหมายทางไวยากรณ์ ลองวิเคราะห์ตัวอย่างนี้ดูนะครับ
teacher คำนี้มี 2 พยางค์คือ teach และ -er และมี 2 หน่วยคำคือteach และ -er และมี 1 คำ
ที่บอกว่ามี 2 หน่วยคำ ก็เพราะว่า teach ก็มีความหมายทางไวยากรณ์คือ verb และ-er ก็มีความหมายทางไวยากรณ์คือ เมื่อไปเติมหลังคำใดทำให้คำนั้นเป็นคำนาม และเป็นคนทันที แปลว่า ผู้ หรือ นัก
Types of Morphemes
ชนิดของหน่วยคำมี 2 คือ 1. Free morpheme และ 2. Bound morpheme แล้วมันมีลักษณะเป็นอย่างไร
นักศึกษาครับ คำว่า free morpheme แปลตามตัวคือ หน่วยคำอิสระ หมายความ เป็นหน่วยคำที่สามารถเกิดเองได้โดยไม่ต้องอาศัยใครเกิด
ส่วน bound morpheme คือ หน่วยคำอาศัย หมายความว่า เป็นหน่วยคำที่ต้องอาศัยหน่วยคำหลักหรือfree morpheme เกิดเพื่อจะได้มีความหมายทางไวยากรณ์ ส่วนมากแล้วมักจะเป็นหน่วยคำที่สำหรับเติม (affixes) อาจจะเติมหน้า (prefixes) หรือ เติมหลังหน่วยคำหลัก (suffixes) ก็ได้ นักศึกษาครับ พูดอย่างนี้ บางคนอาจจะยังสงสัยก็ได้ ถ้าอย่างนั้น เรามาดูตัวอย่างกันเลยดีกว่า
information = 4 พยางค์ 3 หน่วยคำ (in, form,tion) ; form เป็น free morpheme และ in กับ tion เป็น bound morpheme หากเป็นคำอื่น ก็ให้แยกแบบนี้นะครับ ต้องหาหน่วยคำอิสระ และหน่วยคำอาศัยให้เจอก่อน
แล้วคำนี้ละครับ มีกี่หน่วยคำ bananas (ถ้าสงสัยก็ถามในห้องเรียนนะครับ) ยังไม่จบนะครับ เดี๋ยวมีต่อ ตอนนี้ขอรีดผ้าก่อนนะ Bye!