วันพุธที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2550

Commas and Conjunctions

เดี๋ยวจะลืมกันซะก่อนนะครับ ก็เลยต้องรีทบทวนให้กับนักศึกษาที่ยังไม่เข้าใจในเรื่องการใช้เครื่องหมายคอมม่า (,) และ คำสันธาน (conjunctions)
จะพูดถึงเรื่องอะไรก่อนดีครับ โอเค conjunctions ก่อนแล้วกันนะครับ
คำสันธานหลักๆที่เรานิยมใช้ก็คือ and, or, but, so ซึ่งแต่ละตัวก็มีลักษณะที่แตกต่างกัน ถ้างั้นเรามาดูเป็นตัวๆ ไปแล้วกันนะครับ
1. การใช้ and
"and" แปลว่า "และ" และมักใช้เชื่อมคำ (words),วลี(phrases), อนุประโยค (clauses) หรือประโยค (sentences) ที่มีความหมายใกล้เคียงกัน เพื่อความกระจ่าง เรามาดูตัวอย่างกันเลยดีกว่า
She doesn't like rock music, and he doesn't like art.
จากตัวอย่างจะเห็นว่าประโยคทั้งสองนั้นมีความหมายคล้ายกัน นั่นก็คือ "เธอไม่ชอบดนตรีแนวร็อคและเขาก็ไม่ชอบศิลปะเหมือนกัน" อย่างนี้เราจะเชื่อมด้วย and ประโยคอื่นก็เปรียบเทียบเอานะครับ มาดูคำต่อไปเลยครับ
2. การใช้ but
"but" แปลว่า "แต่" และใช้เชื่อมประโยคที่มีความหมายแตกต่างกัน ดูตัวอย่างนะครับ
She likes pop music, but she doesn't like rock.
จากตัวอย่างจะเห็นว่า ประโยคทั้งสองมีความหมายแตกต่างกัน นั่นคือ "เธอชอบดนตรีแนวป๊อบแต่ไม่ชอบดนตรีแนวร็อค" อย่างนี้ต้องเชื่อมด้วย but ชัดเจนนะครับ ดูคำเชื่อมต่อไปเลย
3. การใช้ or
"or" แปลว่า "หรือ" และใช้เชื่อมประโยคสองประโยคที่เป็นตัวเลือก ดูตัวอย่างนะครับ
Every Friday night, they go to cinema, or they visit their grandparents.
จากตัวอย่างจะเห็นว่า พวกเขาอาจจะอย่างใดอย่างหนึ่ง นั่นคือ "ทุกๆวันศุกร์ พวกเขาไปดูหนังหรือไม่ก็อาจจะไปเยี่ยมคุณปู่คุณย่า" อย่างนี้ต้องเชื่อมด้วย or ชัดเจนนะครับ งั้นดูคำเชื่อมต่อไปเลยครับ
4. การใช้ so
"so" แปลว่า "ดังนั้น, เพราะฉะนั้น" และใช้เชื่อมระหว่างประโยคเหตุ(reason)และประโยคผล (result) ดังตัวอย่างว่า He works every night, so he doesn't go out very often.
จากตัวอย่างจะเห็นว่า ทั้งสองจะมีเหตุผลซึ่งกันและกัน นั่นคือ "เขาทำงานทุกคืน ดังนั้น เขาจึงไม่ค่อยไปข้างนอกบ้านบ่อยนัก" อย่างนี้ให้เชื่อมด้วย so หวังว่าคงจะพอเข้าใจคำเชื่อมทั้ง4 กันแล้วนะครับ
เอ้า! หาวซะแล้ว ไหวไหมเนี่ย ไม่ไหววันหน้ามาอ่านใหม่นะครับ ส่วนผมนั้น วันนี้ต้องจบ! ฮึ่ม!
เอ้าละครับ ฝืนอ่านอีกซักหน่อย เพราะเกี่ยวเนื่องกับคำเชื่อมข้างต้นด้วย นั่นก็คือการใช้เครื่องหมายคอมม่า (,) นั่นเอง
1. เราใช้เครื่องหมายคอมม่า(,) วางไว้ข้างหน้าคำเชื่อมทั้ง 4 ข้างต้นเสมอ เมื่อมีการรวมประโยคสองประโยคให้เป็นประโยคเดียว เช่น
Stay alert. Be aware of your surroundings. = Stay alert, and be aware of your surroundings.
2. เราใช้เครื่องหมายคอมม่า คั่นคำ (words) หรือวลี(phrases) ที่มี 3 ขึ้นไป หมายความว่า ถ้ามี 5 คำ คอมม่าก็จะมี 4 ดูตัวอย่างนะครับ
One dog, one cat, two goldfish, a bird , and four humans live at our home.
3. เราใช้เครื่องหมายคอมม่า คั่นหลังคำบอกลำดับทุกตัว ยกเว้น then เช่น
First, put four cups of rice into a pan.
เป็นอย่างไรครับ พอเข้าใจนะครับ หวังว่าต่อไปความผิดพลาดเรื่องนี้คงไม่มีอีกนะครับ
เกี่ยวกับเรื่องนี้มีนักศึกษาคนหนึ่งถามว่า "อาจารย์คะ เมื่อมี and แล้วไม่ต้องใช้คอมม่า ไม่ใช่หรือคะ" คำตอบคือ "ทั้งใช่และไม่ใช่"
คำตอบว่าใช่คือ "เมื่อมีเพียงแค่ 2 คำ หรือ 2 วลี"
คำตอบว่าไม่ใช่คือ "เมื่อมี 3 คำ หรือ 3 วลีขึ้นไป"
ชัดเจนนะครับ โอเคครับ หากมีข้อบกพร่อง ก็ช่วยกระซิบกันหน่อยนะครับ จัก Thank you very much!! Bye! Sleep well ครับผม