วันเสาร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2550

มาทำความเข้าใจเรื่อง Passive Voice กันเถอะ

นักศึกษาครับ การทำความเข้าใจ Passive voice ได้เร็วนั้น ต้องถามตัวเองก่อนว่า tense แม่นไหม กริยา 3 ช่อง คล่องไหม ถ้าหากว่า 2 เรื่องข้างต้นแม่นยำแล้วก็ง่ายเป็นอย่างยิ่งที่จะทำความเข้าใจ
สิ่งแรกเลยที่อยากจะพูดถึงก่อนก็คือ ความแตกต่างระหว่าง Active voice และ Passive voice
Active voice คือ tense นั่นเอง หมายความว่า เป็นประโยคที่เน้นผู้กระทำ (เป็นผู้กระทำกริยานั้นเอง) โดยเอาผู้กระทำไว้ต้นประโยค
ส่วน Passive voice นั้น เป็นประโยคที่เน้นกรรม (ผู้ถูกกระทำ) โดยเอากรรมไว้ต้นประโยค
ถามว่าเมื่อเปลี่ยนจาก Active เป็น passive แล้ว ความหมายเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงไหม คำตอบคือ ไม่
เพียงแต่ต้องการจะเน้นผู้กระทำ หรือ กรรม แค่นั้นเอง แล้วจะสังเกตได้อย่างไรว่า ประโยคนั้นเป็น Active หรือ passive
สังเกตได้โดยง่ายคือสังเกตที่ รูปกริยา ถ้าใน tense(active voice) มีกริยาตัวเดียว ใน passive voice ก็จะเพิ่มมาอีก 1 ตัว คือ Verb to be ที่จะมาวางไว้หน้า กริยาช่อง 3 และ Verb to be ก็จะมีถึง 8 รูปด้วยกัน ตาม tense (active) ต่างๆ ดังนี้
Present Simple
-is + V3 (ถ้าประธานเป็น he, she, it และนามเอกพจน์)
-am + V3 (ถ้าประธานเป็น I)
-are + V3 (ถ้าประธานเป็น You, we, they และนามพหูพจน์)
Past Simple
-was + V3 (ถ้าประธานเป็น he, she, it, I และนามเอกพจน์)
-were + V3 (ถ้าประธานเป็น you, we, they และนามพหูพจน์)
Present Continuous
-is being + V3
-am being + V3
-are being + V3
(ใช้กับประธานตัวใดนั้น เหมือนใน Present Simple ทุกประการ)
Past Continuous
-was being + V3
-were being + V3
(ใช้กับประธานตัวใดนั้น เหมือนใน Past Simple ทุกประการครับ)
Present Perfect
-has been + V3 (ถ้าประธานเป็น he, she, it และนามเอกพจน์)
-have been + V3 (ถ้าประธานเป็น I, you, we, they และนามพหูพจน์)
Future Simple
-will be + V3 (ใช้กับประธานทุกตัว)
เดี๋ยวเรามาดูการเปลี่ยนจาก active เป็น passive กันนะครับ ว่ามีตรงไหนบ้างที่เปลี๋ยนไป มี 4 ข้อดังนี้
1. นำกรรมใน active มาเป็นประธานใน Passive
2. นำ verb to be มาช่วย ผันเป็นรูปต่างๆ (8 รูป) ตามประธาน และtenses
3. กริยาแท้ ให้ผันเป็นช่อง 3 (วางไว้หลัง verb to be)
4. ประธานใน Active ผันเป็นรูปกรรม และวางไว้หลัง by(คำสรรพนามทุกตัว ไม่นิยมวางไว้หลัง by รวมทั้ง person, people, someone, somebody, anyone, no one anybody ด้วย ก็ไม่นิยม)
ดูตัวอย่างนะครับ จะได้ชัดเจนขึ้น
Act: Pravit eats a mango.
Pass: A mango is eaten by Pravit.