วันพฤหัสบดีที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2550

ปัญหาและเทคนิคการทำข้อสอบ English

ปัจจุบันนี้ มีหลายคนมากๆ ที่มีปัญหาในการทำการทดสอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิชาภาษาอังกฤษ แทบจะทุกวิชา ซึ่งก็สามารถสรุปได้ด้วยองค์ประกอบต่างๆ ดังนี้
1. พื้นฐานไม่เน้น และไม่ชัดเจน (เพราะไม่ได้ใส่ใจเลย เวลาเข้าเรียน)
2. มีคำศัพท์ใน Memory น้อย (เพราะแทบจะไม่อ่านภาษาอังกฤษเลย)
3. เขียนประโยคไม่ถูกและไม่รู้จะเริ่มยังไง (เพราะไม่เคยเข้าใจ Grammar)
4. พูดไม่ได้ ด้วย 3 ข้อข้างต้น (เพราะคิดแค่ว่า ยังไงก็ได้ที่ผ่าน D ก็ได้)
เห็นไหมครับว่า การเรียนภาษาอังกฤษนั้น ถ้ามีปัญหามันจะมีปัญหาเกือบจะทุกทักษะ หรืออย่างน้อยๆ ก็ 2 ทักษะ
เช่น อ่านไม่รู้เรื่อง เขียนก็ไม่เป็นประโยค หรือ ฟังไม่ออก พูดก็ไม่ได้
ถ้าตอนนี้ใครที่ยังเป็นอย่างที่กล่าวข้างต้น ผมมีวิธีซึ่งก็พยายามนำไปใช้กับทุกๆ ห้องที่ทำการสอน เพื่อต้องการตรวจสอบผู้เรียน ด้วยวิธีการต่างๆ ดังนี้
1. What? มันคืออะไร เคยเห็นไหม
2. How? เข้าใจว่าอย่างไร
3. Where? เมื่ออยู่ในประโยค มันจะวางไว้ตรงไหน
4. Why? ทำไมถึงต้องวางไว้ตรงนั้น
5. Y/N แล้วมันมีข้อยกเว้นไหม หรือไม่มี
6. E.G. แล้วมีตัวอย่างประกอบไหม
ต้องยอมรับนะครับว่า นักศึกษาเรา แทบจะทุกคนเรียนภาษาอังกฤษมาไม่ต่ำกว่า 10 ปี แต่แปลกว่า เรียนทีไร เหมือนกับยังไม่เคยเรียนมาก่อน คือไม่เคยเข้าใจ
ถามว่า... เคยเรียนไหม... ตอบว่า... เคย ...เข้าใจไหม...ไม่เคยจะใส่ใจ พอสอบเสร็จก็ลืมหมดเลย ---เป็นอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าๆๆ---
รู้ตัวไหม---รู้---แก้ไขไหม---ไม่ๆๆๆๆๆๆๆ---นั่นคือคำตอบ
เพราะฉะนั้น วิธีการข้างต้นนั้นคือวิธีการที่สามารถจะนำไปใช้ได้ทั้งในการเรียนและการทดสอบ เพื่อความเข้าใจในเรื่องที่เรียนจริงๆ ---โดยที่ไม่ต้องแบบว่า---เรียนทีไร ก็ต้องมาทำความเข้าใจใหม่ทุกที--- แล้วจะไม่ให้มันเบื่อและกลัวได้อย่างไร ใช่ไหมครับ....
แต่ยังๆยังไม่สายครับ เราเริ่มวันนี้ยังทันครับ
ดังนั้น เวลาเราเรียนภาษาอังกฤษ ก็คือการเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ (improve) เมื่อมีหลักภาษา (grammar) มาเกี่ยวข้อง เราก็แค่ทบทวน (review)
ไม่ใช่ต้องมาสอนไหม่ทั้งหมด (อย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้) ---ก็ขอฝากนะครับว่า 6 ข้อข้างต้น จะไม่ทำให้ท่านเบื่อและกลัว กลับตรงข้ามกันคือ สนุกและชอบ
---เมื่อเข้าใจก็จะสามารถวิเคราะห์และเข้าใจได้ ลองดูตัวอย่างนะครับ---
A---Good morning, Mr. B.
B---Good morning, Mr. A. ________________?
A---Fine, thank you. And you?
---a. How do you do?
---b. How are you?
---c. How about you?
---d. How old are you?
อย่างนี้เราก็เลือกข้อ b. How are you? (คุณสบายดีไหม) เพราะคำตอบคือ Fine ที่แปลว่า สบายดี
เห็นไหมละครับว่า คำถามและคำตอบมันสัมพันธ์กัน
A---I have one brother.
B---How old is _______?
A------------------------
---a. she----b. her----c. he----d. his
เลือกข้อ c. he เพราะถามถึง one brother น้องชายคนเดียวใช้สรรพนาม he แทน ทั้งยังทำหน้าที่เป็นประธานในประโยคด้วย
ยังมีอีกมากมายหลายเรื่อง ก็ขอให้วิเคราะห์และทำความเข้าใจจริงๆ นะครับ
---อย่าแค่ว่า ---แค่ผ่าน--- งั้นอย่าเรียนเลยครับ---เสียเวลาเปล่าๆ