ปัจจุบันนี้ มีหลายคนมากๆ ที่มีปัญหาในการทำการทดสอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิชาภาษาอังกฤษ แทบจะทุกวิชา ซึ่งก็สามารถสรุปได้ด้วยองค์ประกอบต่างๆ ดังนี้
1. พื้นฐานไม่เน้น และไม่ชัดเจน (เพราะไม่ได้ใส่ใจเลย เวลาเข้าเรียน)
2. มีคำศัพท์ใน Memory น้อย (เพราะแทบจะไม่อ่านภาษาอังกฤษเลย)
3. เขียนประโยคไม่ถูกและไม่รู้จะเริ่มยังไง (เพราะไม่เคยเข้าใจ Grammar)
4. พูดไม่ได้ ด้วย 3 ข้อข้างต้น (เพราะคิดแค่ว่า ยังไงก็ได้ที่ผ่าน D ก็ได้)
เห็นไหมครับว่า การเรียนภาษาอังกฤษนั้น ถ้ามีปัญหามันจะมีปัญหาเกือบจะทุกทักษะ หรืออย่างน้อยๆ ก็ 2 ทักษะ
เช่น อ่านไม่รู้เรื่อง เขียนก็ไม่เป็นประโยค หรือ ฟังไม่ออก พูดก็ไม่ได้
ถ้าตอนนี้ใครที่ยังเป็นอย่างที่กล่าวข้างต้น ผมมีวิธีซึ่งก็พยายามนำไปใช้กับทุกๆ ห้องที่ทำการสอน เพื่อต้องการตรวจสอบผู้เรียน ด้วยวิธีการต่างๆ ดังนี้
1. What? มันคืออะไร เคยเห็นไหม
2. How? เข้าใจว่าอย่างไร
3. Where? เมื่ออยู่ในประโยค มันจะวางไว้ตรงไหน
4. Why? ทำไมถึงต้องวางไว้ตรงนั้น
5. Y/N แล้วมันมีข้อยกเว้นไหม หรือไม่มี
6. E.G. แล้วมีตัวอย่างประกอบไหม
ต้องยอมรับนะครับว่า นักศึกษาเรา แทบจะทุกคนเรียนภาษาอังกฤษมาไม่ต่ำกว่า 10 ปี แต่แปลกว่า เรียนทีไร เหมือนกับยังไม่เคยเรียนมาก่อน คือไม่เคยเข้าใจ
ถามว่า... เคยเรียนไหม... ตอบว่า... เคย ...เข้าใจไหม...ไม่เคยจะใส่ใจ พอสอบเสร็จก็ลืมหมดเลย ---เป็นอย่างนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าๆๆ---
รู้ตัวไหม---รู้---แก้ไขไหม---ไม่ๆๆๆๆๆๆๆ---นั่นคือคำตอบ
เพราะฉะนั้น วิธีการข้างต้นนั้นคือวิธีการที่สามารถจะนำไปใช้ได้ทั้งในการเรียนและการทดสอบ เพื่อความเข้าใจในเรื่องที่เรียนจริงๆ ---โดยที่ไม่ต้องแบบว่า---เรียนทีไร ก็ต้องมาทำความเข้าใจใหม่ทุกที--- แล้วจะไม่ให้มันเบื่อและกลัวได้อย่างไร ใช่ไหมครับ....
แต่ยังๆยังไม่สายครับ เราเริ่มวันนี้ยังทันครับ
ดังนั้น เวลาเราเรียนภาษาอังกฤษ ก็คือการเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ (improve) เมื่อมีหลักภาษา (grammar) มาเกี่ยวข้อง เราก็แค่ทบทวน (review)
ไม่ใช่ต้องมาสอนไหม่ทั้งหมด (อย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้) ---ก็ขอฝากนะครับว่า 6 ข้อข้างต้น จะไม่ทำให้ท่านเบื่อและกลัว กลับตรงข้ามกันคือ สนุกและชอบ
---เมื่อเข้าใจก็จะสามารถวิเคราะห์และเข้าใจได้ ลองดูตัวอย่างนะครับ---
A---Good morning, Mr. B.
B---Good morning, Mr. A. ________________?
A---Fine, thank you. And you?
---a. How do you do?
---b. How are you?
---c. How about you?
---d. How old are you?
อย่างนี้เราก็เลือกข้อ b. How are you? (คุณสบายดีไหม) เพราะคำตอบคือ Fine ที่แปลว่า สบายดี
เห็นไหมละครับว่า คำถามและคำตอบมันสัมพันธ์กัน
A---I have one brother.
B---How old is _______?
A------------------------
---a. she----b. her----c. he----d. his
เลือกข้อ c. he เพราะถามถึง one brother น้องชายคนเดียวใช้สรรพนาม he แทน ทั้งยังทำหน้าที่เป็นประธานในประโยคด้วย
ยังมีอีกมากมายหลายเรื่อง ก็ขอให้วิเคราะห์และทำความเข้าใจจริงๆ นะครับ
---อย่าแค่ว่า ---แค่ผ่าน--- งั้นอย่าเรียนเลยครับ---เสียเวลาเปล่าๆ